วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Toyota 86 รถสปอร์ตขวัญใจ Otaku

Toyota 86 รถสปอร์ตที่ถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือของสองค่ายที่แนวทางไม่น่าจะเข้ากันได้ อย่าง Toyota ที่เน้นผลิตรถเพื่อทำกำไร มีจุดขายที่ความทนทานและง่ายแก่การบำรุงรักษา และ Subaru ที่ออกจะมีแนวทางแบบตามใจตัวเองเน้นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ทั้งสองค่ายมา Featuring กันจนทำให้เกิดผลงานชั้นดีชิ้นนี้ออกมา รถคันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูที่บรรทัดถัดไป
รูปลักษณ์ภายนอก
Toyota 86
ท้าย Toyota 86
ก็อย่างที่เห็นมันดูเป็นรถสปอร์ตที่มีความโฉบเฉี่ยว ขับไปที่ไหนมีแต่คนมอง บางคนถึงกับจอดถ่ายรูปเลยนั่น ขนาดมีรถที่แพงกว่าอย่าง Mercedes-Benz S-Class จอดอยู่ข้างๆ คนที่ผ่านไปมายังสนใจรถที่มีราคา 2.49-2.74 ล้านบาท คันนี้มากกว่าซะอีกเป็นไปได้ไง ถือว่าดีไซน์ภายนอกของมันทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ คะแนนเต็ม 10 ได้ 10 เต็มไปเลย ดีไซน์ภายนอกที่เป็นฝาแฝดกับ Subaru BRZ นี้ ประกอบไปด้วยชุดแต่งและสเกิร์ตรอบคัน กระจกกรองแสง ไฟตัดหมอกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED มีท่อคู่ทรงกลมพร้อม Diffuser ด้านหลัง ใช้ล้อแม็กขนาด 16 นิ้วสำหรับรุ่นมาตรฐาน และขนาด 17 นิ้วสำหรับรุ่นท็อป

ภายใน
ภายใน 86
ตกแต่งแบบเรียบง่ายด้วยโทนสีดำ มีพวงมาลัยหุ้มหนังปรับสูง-ต่ำได้ เบาะนั่งคนขับปรับสูง-ต่ำได้ มีหน้าจอ Touch Screen มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา มีปุ่ม Start/Stop เบาะหลังสามารถพับได้ สำหรับวัสดุหุ้มเบาะตัวท็อปจะเป็นหนังแบบสังเคราะห์กึ่งหนังแท้ แต่ตัวมาตรฐานจะเป็นผ้า รุ่นท็อปจะมีพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น แต่ตัวมาตรฐานไม่มี ถามว่านั่งแล้วรู้สึกเป็นไง ก็บอกเลยว่านั่งสบายดีไม่มีปัญหาอะไร ความรู้สึกไม่ต่างจากนั่งรถบ้านเท่าไหร่ ถ้าไม่หันไปข้างหลังเห็นพื้นที่แคบๆ ล่ะก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นรถสปอร์ตเลย นึกว่ากำลังนั่งขับอยู่ในรถเก๋งซีดานซะอีก ลืมไปเลยว่านี่มันรถสปอร์ต 2 ประตูชัดๆ

สมรรถนะเครื่องยนต์ อัตราเร่ง
Toyota 86 ใช้เครื่องยนต์ Boxer สูบนอน 2.0 ลิตร ตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน Subaru BRZ มีแรงม้า 200 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิด 205 นิวตัน/เมตร ที่ 6,400 รอบต่อนาที ระบุสเป็คจากโรงงานมาว่ารถหนัก 1,250 กิโลกรัม คันนี้ ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ขับจริงๆ แล้วช้ากว่าที่สเป็คระบุไว้มาก โดยรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ใน 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 223 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิ่งรุ่นเกียร์อัตโนมัติยิ่งอืดเป็นเต่าไม่ต่างจากรถซีดาน C-Segment เลย ทำ 0-100 ได้ 9.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของแบบนี้รถบ้านพิกัด 2.0 ลิตรทั่วไปก็ทำได้ นั่นก็คงเป็นเพราะเครื่อง 2.0 ลิตรไร้ระบบช่วยอัดอากาศมันมาได้สุดลิมิตแต่เพียงแค่นี้ หรือไม่ก็เป็นเพราะคุณภาพหรือสเป็กน้ำมันต่างกับที่ทางโรงงานเขาใช้อยู่ ยังไงก็ตามอัตราเร่งยืดหยุ่น 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าดีกว่ารถบ้าน โดยรุ่นเกียร์อัตโนมัติทำได้ 6.45 วินาที รุ่นเกียร์ธรรมดาทำได้ 5.84 วินาที ที่เกียร์สาม และ 7.61 วินาทีที่เกียร์สี่ แต่ยังไงก็ขอบอกย้ำอีกครั้งเลยว่าความรู้สึกในการเหยียบคันเร่งแต่ละครั้งตอบสนองไม่ต่างจากรถบ้านเลย แต่สิ่งที่จะได้กลับมาก็คืออัตราประหยัดน้ำมันที่ทำได้อย่างดีเทียบเท่ารถบ้านคือรุ่นเกียร์อัตโนมัติทำได้ 15.57 กม./ลิตร ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดาทำได้ 14.95 กม./ลิตร เสียงเครื่องยนต์หรือท่อไอเสียถ้าคนที่ไม่เคยขับรถสปอร์ตก็คงรู้สึกว่ามันดังแล้ว แต่ถ้าคุณเคยชินกับรถประเภทนี้ เสียงแบบนี้ไม่ต่างอะไรเลยกับเสียงตดแมว เบาและเงียบสนิท ความแรงของเครื่องยนต์ไม่ก่อให้เกิดความสนุกตื่นเต้นอะไรทั้งสิ้น จนกว่าจะได้มาพบกับสิ่งต่อไปนี้

ช่วงล่างหรือระบบรองรับ
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบดับเบิลวิชโบนหรือปีกนกคู่ การเซ็ตช่วงล่างและพวงมาลัยทำได้อย่างลงตัวมาก พวงมาลัยบังคับควบคุมได้ง่าย ว่องไว และแม่นยำ แต่ยังมีน้ำหนักหนืดมือให้สัมผัสได้ในยามใช้ความเร็วสูง เป็นพวงมาลัยไฟฟ้าที่เซ็ตได้ใกล้เคียงกับพวงมาลัยไฮดรอลิคในอดีต มีน้ำหนักที่ลงตัวทั้งในย่านความเร็วสูงและความเร็วต่ำ ต่างจากพวงมาลัยตุ๊ดในรถญี่ปุ่นยุคปัจจุบันที่เบาอย่างกับถุงก็อบแก็บ ทำอย่างกับกำลังแขนของมนุษย์ชายหญิงพันธุ์โฮโมเซเปียน ยุคนี้นั้นอ่อนแอบอบบางเหลือเกิน จนนึกว่าออกแบบพวงมาลัยให้คนเป็นโปลิโอแขนลีบเล็กขับหรือไง เอาล่ะนอกเรื่องมาเยอะมาต่อกันที่ช่วงล่างของ 86 การตอบสนองระหว่างช่วงล่างกับพวงมาลัยเป็นไปอย่างเฉียบคมสัมพันธ์กันอย่างลงตัวคุณจะรู้สึกถึงฟีดแบ็คของช่วงล่างอย่างตรงไปตรงมา อย่างกับว่าคุณใช้มือจับและบังคับล้อให้เลี้ยวซ้ายขวาด้วยตัวคุณเองเลยทีเดียว และด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของเครื่องยนต์สูบนอน ทำให้การเข้าโค้งเป็นไปอย่างหนึบแน่น แต่ 86 ยังออกแบบช่วงล่างให้ผ่อนปรนในการที่จะทำการดริฟท์ได้อย่างง่ายดาย การแก้อาการในโค้งสามารถทำได้ดีเพราะพวงมาลัยบังคับควบคุมง่ายและแม่นยำ 86 จึงเป็นรถที่คุณสามารถเล่นซุกซนกับช่วงล่างของมันได้อย่างเมามัน จนบางครั้งก็นึกสงสัยว่าตัวเองก็อาจจะทำ Scandinavian flick หรือ feint drift ที่เป็นการดริฟท์โดยการถ่ายน้ำหนัก ได้อย่างกับมืออาชีพเช่นกันเมื่อใช้รถ 86 คันนี้ แต่ก็ไม่เคยลอง และสิ่งที่ทำให้รถคันนี้มีคุณค่าขึ้นมาทันทีก็คือการตอบสนองของช่วงล่างและพวงมาลัยนี่แหละ มันดีเลิศประเสริฐศรีแบบมีคะแนนเต็ม 10 ให้ 10 เต็มได้เลย

สรุป
เป็นรถสปอร์ตที่ใช้งานง่ายขับสบายไม่เมื่อยตุ้ม ประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ ช่วงล่างและพวงมาลัยประเสริฐที่สุดในสามโลก เพียงแต่ว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่ช้าเกินไปเกินกว่าที่จะเรียกว่ารถสปอร์ตได้ แต่สำหรับเรื่องแฮนด์ลิ่งบอกได้เลยว่าโคตรจะสปอร์ต หากจะให้คะแนนก็คงจะให้ตามนี้
รูปลักษณ์ภายนอก: 10/10
การตกแต่งภายใน: 6/10
สมรรถนะเครื่องยนต์ อัตราเร่ง: 4/10
ช่วงล่างและการบังคับควบคุม: 10/10
การใช้งานในชีวิตประจำวัน: 7/10
ความประหยัด: 8/10
ปัจจัยทางอารมณ์: 9/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น