รูปลักษณ์ภายนอก
Toyota 86 |
ท้าย Toyota 86 |
ภายใน
ภายใน 86 |
สมรรถนะเครื่องยนต์ อัตราเร่ง
Toyota 86 ใช้เครื่องยนต์ Boxer สูบนอน 2.0 ลิตร ตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน Subaru BRZ มีแรงม้า 200 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิด 205 นิวตัน/เมตร ที่ 6,400 รอบต่อนาที ระบุสเป็คจากโรงงานมาว่ารถหนัก 1,250 กิโลกรัม คันนี้ ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ขับจริงๆ แล้วช้ากว่าที่สเป็คระบุไว้มาก โดยรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ใน 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 223 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิ่งรุ่นเกียร์อัตโนมัติยิ่งอืดเป็นเต่าไม่ต่างจากรถซีดาน C-Segment เลย ทำ 0-100 ได้ 9.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของแบบนี้รถบ้านพิกัด 2.0 ลิตรทั่วไปก็ทำได้ นั่นก็คงเป็นเพราะเครื่อง 2.0 ลิตรไร้ระบบช่วยอัดอากาศมันมาได้สุดลิมิตแต่เพียงแค่นี้ หรือไม่ก็เป็นเพราะคุณภาพหรือสเป็กน้ำมันต่างกับที่ทางโรงงานเขาใช้อยู่ ยังไงก็ตามอัตราเร่งยืดหยุ่น 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าดีกว่ารถบ้าน โดยรุ่นเกียร์อัตโนมัติทำได้ 6.45 วินาที รุ่นเกียร์ธรรมดาทำได้ 5.84 วินาที ที่เกียร์สาม และ 7.61 วินาทีที่เกียร์สี่ แต่ยังไงก็ขอบอกย้ำอีกครั้งเลยว่าความรู้สึกในการเหยียบคันเร่งแต่ละครั้งตอบสนองไม่ต่างจากรถบ้านเลย แต่สิ่งที่จะได้กลับมาก็คืออัตราประหยัดน้ำมันที่ทำได้อย่างดีเทียบเท่ารถบ้านคือรุ่นเกียร์อัตโนมัติทำได้ 15.57 กม./ลิตร ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดาทำได้ 14.95 กม./ลิตร เสียงเครื่องยนต์หรือท่อไอเสียถ้าคนที่ไม่เคยขับรถสปอร์ตก็คงรู้สึกว่ามันดังแล้ว แต่ถ้าคุณเคยชินกับรถประเภทนี้ เสียงแบบนี้ไม่ต่างอะไรเลยกับเสียงตดแมว เบาและเงียบสนิท ความแรงของเครื่องยนต์ไม่ก่อให้เกิดความสนุกตื่นเต้นอะไรทั้งสิ้น จนกว่าจะได้มาพบกับสิ่งต่อไปนี้
ช่วงล่างหรือระบบรองรับ
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบดับเบิลวิชโบนหรือปีกนกคู่ การเซ็ตช่วงล่างและพวงมาลัยทำได้อย่างลงตัวมาก พวงมาลัยบังคับควบคุมได้ง่าย ว่องไว และแม่นยำ แต่ยังมีน้ำหนักหนืดมือให้สัมผัสได้ในยามใช้ความเร็วสูง เป็นพวงมาลัยไฟฟ้าที่เซ็ตได้ใกล้เคียงกับพวงมาลัยไฮดรอลิคในอดีต มีน้ำหนักที่ลงตัวทั้งในย่านความเร็วสูงและความเร็วต่ำ ต่างจากพวงมาลัยตุ๊ดในรถญี่ปุ่นยุคปัจจุบันที่เบาอย่างกับถุงก็อบแก็บ ทำอย่างกับกำลังแขนของมนุษย์ชายหญิงพันธุ์โฮโมเซเปียน ยุคนี้นั้นอ่อนแอบอบบางเหลือเกิน จนนึกว่าออกแบบพวงมาลัยให้คนเป็นโปลิโอแขนลีบเล็กขับหรือไง เอาล่ะนอกเรื่องมาเยอะมาต่อกันที่ช่วงล่างของ 86 การตอบสนองระหว่างช่วงล่างกับพวงมาลัยเป็นไปอย่างเฉียบคมสัมพันธ์กันอย่างลงตัวคุณจะรู้สึกถึงฟีดแบ็คของช่วงล่างอย่างตรงไปตรงมา อย่างกับว่าคุณใช้มือจับและบังคับล้อให้เลี้ยวซ้ายขวาด้วยตัวคุณเองเลยทีเดียว และด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของเครื่องยนต์สูบนอน ทำให้การเข้าโค้งเป็นไปอย่างหนึบแน่น แต่ 86 ยังออกแบบช่วงล่างให้ผ่อนปรนในการที่จะทำการดริฟท์ได้อย่างง่ายดาย การแก้อาการในโค้งสามารถทำได้ดีเพราะพวงมาลัยบังคับควบคุมง่ายและแม่นยำ 86 จึงเป็นรถที่คุณสามารถเล่นซุกซนกับช่วงล่างของมันได้อย่างเมามัน จนบางครั้งก็นึกสงสัยว่าตัวเองก็อาจจะทำ Scandinavian flick หรือ feint drift ที่เป็นการดริฟท์โดยการถ่ายน้ำหนัก ได้อย่างกับมืออาชีพเช่นกันเมื่อใช้รถ 86 คันนี้ แต่ก็ไม่เคยลอง และสิ่งที่ทำให้รถคันนี้มีคุณค่าขึ้นมาทันทีก็คือการตอบสนองของช่วงล่างและพวงมาลัยนี่แหละ มันดีเลิศประเสริฐศรีแบบมีคะแนนเต็ม 10 ให้ 10 เต็มได้เลย
สรุป
เป็นรถสปอร์ตที่ใช้งานง่ายขับสบายไม่เมื่อยตุ้ม ประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ ช่วงล่างและพวงมาลัยประเสริฐที่สุดในสามโลก เพียงแต่ว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่ช้าเกินไปเกินกว่าที่จะเรียกว่ารถสปอร์ตได้ แต่สำหรับเรื่องแฮนด์ลิ่งบอกได้เลยว่าโคตรจะสปอร์ต หากจะให้คะแนนก็คงจะให้ตามนี้
รูปลักษณ์ภายนอก: 10/10
การตกแต่งภายใน: 6/10
สมรรถนะเครื่องยนต์ อัตราเร่ง: 4/10
ช่วงล่างและการบังคับควบคุม: 10/10
การใช้งานในชีวิตประจำวัน: 7/10
ความประหยัด: 8/10
ปัจจัยทางอารมณ์: 9/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น