รูปลักษณ์ภายนอก
Hyundai H1 |
ท้าย Hyundai H1 |
ภายใน
ภายใน Hyundai H1 |
สมรรถนะเครื่องยนต์อัตราเร่ง
Hyundai H1 ใช้เครื่องยนต์อยู่ 2 แบบ คือ ดีเซล 2.5 ลิตร แถมมีเทอร์โบแต่กลับทำแรงม้าได้เพียง 136 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นล่างสุดที่ใช้เกียร์ธรรมดา และ 2.5 ลิตร ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 175 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 441 นิวตัน/เมตร ที่ 2,000-2,250 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นท็อปกับรุ่นรองท็อปเกียร์อัตโนมัติ สำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงรุ่นเกียร์อัตโนมัติทำได้ 14.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อืดมากคงเป็นเพราะน้ำหนักรถที่มากถึง 2,265 กิโลกรัม นี่ขนาดนั่งขับคนเดียวนะเนี่ยแล้วคิดดูถ้าบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันรถจะอืดขนาดไหน ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดาไม่เคยลองแต่ผลออกมาก็น่าจะอืดพอกันเผลอๆอาจจะอืดยิ่งกว่าเพราะรถก็มีน้ำหนักถึง 2,250 กิโลกรัม แถมแรงม้าแรงบิดน้อยกว่ากันเยอะ เมื่อเทียบแรงม้าแรงบิดต่อน้ำหนักจะได้ 60.4 แรงม้าต่อตันและ 152.4 นิวตัน/เมตร ต่อตัน ด้อยกว่ารุ่น 175 แรงม้าที่เมื่อเทียบแรงม้าแรงบิดต่อน้ำหนักจะได้ 77.26 แรงม้าต่อตัน และ 194.7 นิวตัน/เมตร ต่อตัน ขับจริงยังไงมันก็อืดทั้งคู่ แต่ก็ยังมีคนบอกว่าแรงอยู่ อัตราประหยัดน้ำมันก็ห่วยแตก 9.7 กิโลเมตรต่อลิตร ช้าไม่พอแถมเปลืองน้ำมันอีกต่างหาก ทำไมบางคนถึงบอกว่า Hyundai H1 ประหยัดน้ำมันอีก สรุปที่ฟังมาจากคนอื่นว่า Hyundai H1 แรงและประหยัดน้ำมันเนี่ยไม่จริงเลยใช่ไหม แต่ไม่แน่รุ่นเกียร์ธรรมดาอาจจะประหยัดกว่านี้นิดหน่อยก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะกินยิ่งกว่าเพราะปัจจัยแรงม้าแรงบิดต่อน้ำหนักที่ด้อยกว่า อย่างไรก็ตามความจุถังน้ำมันที่ใหญ่ถึง 75 ลิตร ทำให้วิ่งได้ไกลหน่อยที่ 727.5 กิโลเมตรเมื่อเติมน้ำมันเต็มถังสำหรับรุ่นเกียร์ออโต้ (รุ่นเกียร์ธรรมดาก็ 75 ลิตรเท่ากันแต่ไม่รู้อัตราประหยัดน้ำมัน)
ช่วงล่างหรือระบบรองรับ
ด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Struts ด้านหลังเป็นแบบ 5-Link Rigid Axle พร้อมด้วยระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัมสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และหน้าดิสก์หลังดิสก์สำหรับรุ่นเกียร์ออโต้ ซึ่งบอกได้เลยว่าช่วงล่างแข็งกระด้าง เต้น และไม่หนึบอีกต่างหาก แถมเมื่อรองรับกับตัวถังที่ใหญ่และน้ำหนักมากมันยิ่งส่งผลให้รถวิ่งไม่มั่นคงไปใหญ่ ทำไมเท่าที่ฟังมาคนทั่วไปบอก Hyundai H1 ช่วงล่างดีอีกแล้ว หรือเพราะไม่ตั้งสมาธิจับสัมผัสจริงๆ จึงไม่รู้ว่ามีการสั่น โคลง ของตัวถังเกิดขึ้น ขอเตือนเลยว่าถ้าขับรถรุ่นนี้อยู่อย่าอัดโค้งแรงๆ เด็ดขาด ซึ่งเท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นใครทำแบบนั้นกับรถคันนี้ ดีไม่ดีช่วงล่างอาจจะแย่ยิ่งกว่า Toyota Hiace Commuter ซะอีก แต่สำหรับระบบเบรกถือว่าหนึบแน่นมั่นใจได้สามารถเอาอยู่ไม่ว่าจะสถานะการณ์ปกติ หรือสถานะการณ์คับขัน น้ำหนักและความลึกของแป้นเบรกค่อนข้างลงตัว พวงมาลัยปรับเซ็ตน้ำหนักมาได้ดีเบาและควบคุมง่ายในช่วงความเร็วต่ำ หนืดมีน้ำหนักเมื่อใช้ความเร็วสูง และรัศมีวงเลี้ยวที่แคบ 5.6 เมตร ทำให้มีความคล่องตัวเมื่อใช้งานในเมือง
สรุป
รถมีดีที่ความกว้างขวางนั่งสบาย ดีไซน์ภายนอกและภายในดูดีมีชาติตระกูล มีพื้นที่ใช้สอยให้ใช้อย่างเอนกประสงค์ ถ้าต้องเดินทางโดยมีผู้โดยสารพร้อมกับสัมภาระเยอะๆ จะเป็นรถที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า แต่ข้อเสียก็คืออัตราเร่ง อัตราประหยัดน้ำมัน และช่วงล่าง ที่ทำได้ค่อนข้างแย่ แต่การปรับเซ็ตพวงมาลัยและเบรกที่ลงตัวก็พอจะชดเชยจุดด้อยของช่วงล่างและการควบคุมได้บ้าง
ถ้ารับได้กับข้อดีข้อเสียเหล่านี้ Hyundai H1 ก็มีอยู่ 3 รุ่นย่อยให้เลือก คือ
Hyundai H1 Touring ราคา 1,099,000 บาท
Hyundai H1 Executive ราคา 1,489,000 บาท
Hyundai H1 Deluxe ราคา 1,599,000 บาท
บอกเลยว่ารุ่น Touring ออปชั่นโกร๋นมากไม่มี_่าอะไรเลย ในเรื่องขาดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายกับสิ่งให้ความบันเทิงยังพอว่า แต่ดันไม่มีถุงลมนิรภัยกับเบรก ABS มาให้นี่มันออกจะเกินไปหน่อยกับรถราคาเป็นล้าน แต่ออปชั่นความปลอดภัยยังเทียบรถราคา 7-8 แสนยังไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น