Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport |
ท้าย CLA |
Benz CLA หรือเรียกชื่อเต็มๆว่า Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport คันนี้ เป็นรถที่รวมเอาเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz หลายๆรุ่นมาไว้ในรถคันนี้คันเดียว เหมือนเป็นการฟิวชั่นของรถ 3 รุ่นคือ CLS, SLK และ A-Class ดีไซน์กระจังหน้าดูโฉบเฉี่ยว แต่ยังไงก็ยังดูเป็น CLS ที่ย่อส่วนให้เล็กลงอยู่ดี แต่เส้นสายยังไม่ลงตัวเท่า CLS โดยเฉพาะด้านข้างกับด้านท้าย นี่ดูแล้วทำได้ไม่ค่อยเนียนตาเท่าไหร่ แต่ก็ยังยืนยันเช่นเดิมว่าเรื่องรูปทรงรูปลักษณ์ภายนอกนั้นช่างหัวมัน มาดูสมรรถนะภายในดีกว่า
Mercedes-Benz CLA 250 ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า มิติตัวรถ กว้าง*ยาว*สูง เท่ากับ 1,777*4,630*1,432 มิลลิเมตร อัตราประหยัดน้ำมัน 16.12-16.39 กิโลเมตรต่อลิตร ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร เท่ากับมีพิสัยการเดินทาง 806-819.5 กิโลเมตร ปล่อยไอเสีย 142-144 กรัมต่อกิโลเมตร และเมื่อเห็นสมรรถนะแล้วต้องอึ้งแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นรถซีดานน้ำหนัก 1,480 กิโลกรัม ที่ขับเคลื่อนด้วยแรงม้าเพียง 211 แรงม้า และมีแรงบิด พอๆกับรถกระบะหรืออาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ แต่ด้วยแรงบิดสูงสุดที่มาในรอบต่ำเพียง 1,200 รอบต่อนาที ลากไปจนถึง 4,000 รอบต่อนาที ก็ส่งผลให้ CLA คันนี้ออกตัวด้วยเวลาเพียงแค่ 6.7 วินาที เร็วยิ่งกว่ารถสปอร์ตอย่าง Toyota FT86 ที่ทำได้ 7.4 วินาที แถมความเร็วสูงสุดยังมากกว่าที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดย 86 ทำได้แค่ 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และที่น่าสนใจก็คือราคาที่เท่ากันเป๊ะที่ 2,640,000 บาท (เทียบกับ 86 รุ่นเกียร์ออโต้) อย่างนี้ก็เท่ากับว่าได้สมรรถนะดีกว่าในราคาเท่ากันแถมยังได้ความสบายเพิ่มขึ้นมาอีกเพราะนั่งได้ 4 คนเต็มๆ แบบไม่เบียดเสียด ภายในนั้นจะรู้สึกคุ้นตามากหากใครเคยขับ Benz A-Class เพราะมันถอดแบบกันมาเลยแคาเปลี่ยนเส้นสายคอนโซลหน้าให้ดูสปอร์ตขึ้นนิดหน่อย ปุ่มและฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับที่เห็นใน A-Class เรียกว่าใครเคยใช้ A-Class มาก่อนก็ไม่ต้องไปหาปุ่มให้วุ่นวายและไม่ต้องปรับตัวกับการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ด้วย และถึงแม้ทาง Mercedes ตั้งใจจะสร้างรถคันนี้เป็นเพียงซีดานเรียบหรูที่เจือจางความเป็นสปอร์ตบางๆก็ตาม แต่สมรรถนะเรียกว่าแรงเทียบรุ่นรถสปอร์ตได้สบาย เพราะมันสามารถเรียกอัตราเร่งได้ในทุกรอบความเร็ว เกียร์ก็ส่งกำลังอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ช่วงล่างเกาะถนนดี balance ดี พวงมาลัยทิศทางแม่นยำ น้ำหนักสัมพันธ์กับความเร็ว ซึ่งเมื่อขับช้าพวงมาลัยจะรู้สึกเบาไม่ต้องออกแรงมากนัก แต่เมื่อขับเร็วจะมีความหนืดและหนักขึ้นมาทำให้รู้สึกมั่นใจยามใช้ความเร็วสูง ไม่เหมือนรถบางคันที่ช้าก็เบาเร็วก็เบาจนรู้สึกว่านี่เราจับพวงมาลัยรถยนต์หรือว่าถือถุงพลาสติกอยู่กันแน่ รถคันนี้สมรรถนะดีจนบางทียังนึกสงสัยอยู่เลยว่าเมื่อมี CLA แล้วจะมี C-Class ไว้เพื่ออะไร? แต่คำตอบก็มาปรากฏเมื่อเจ้ารถคันนี้ต้องวิ่งผ่านพื้นผิวที่ไม่เรียบนี่แหละ คงต้องบอกว่าตอนถนนปกติช่วงล่างมันก็นุ่มนั่งสบายอยู่ แต่ถ้ามีลูกระนาด มีหลุมต่างๆล่ะก็ช่วงล่างมันจะรู้สึกกระด้างใกล้เคียง SLK แต่ยังรู้สึกนิ่มกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับ C-Class แล้วจะรู้สึกว่า CLA กระด้างกว่ามาก นี่แหละที่เป็นเหตุผลที่แยกกลุ่มระหว่าง CLA กับ C-Class อย่างชัดเจน โดย CLA เอาใจคนขับแต่ C-Class เอาใจคนนั่ง กลุ่มลูกค้าที่ซื้อ CLA จะเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า และชื่นชอบในความเร็วแบบพอประมาณ ซึ่ง CLA ก็สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ
สรุปข้อดีของรถคันนี้ คือ สมรรถนะดีทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เกียร์ และพวงมาลัย
ส่วนข้อเสียก็คือ การตบแต่งภายในรู้สึกดูเป็น A 250 นั่นแหละ ที่ทำให้รถขาดเอกลักษณ์ของตัวเองไป และช่วงล่างที่กระด้างซับแรงสะเทือนได้ไม่ดี ทำให้นั่งไม่สบายเท่าไหร่ ห้องโดยสารตอนหลังก็รู้สึกจะแคบไปนิดเมื่อเทียบกับ C-Class
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น