วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

Mitsubishi Outlander PHEV สมควรนำเข้ามาขายในไทยหรือเปล่า? แล้วมันจะเข้ามาไหม?

ผมล่ะอิจฉาคนยุโรปกับอเมริกาจริงๆ ที่มีแต่รถดีๆมาให้ใช้ ต่างจากประเทศไทยที่ถึงแม้จะรุ่นเดียวกันแต่ก็ตัดออปชั่นไปมากมายก่ายกองจนจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว และบางรุ่นที่ขายดีไปทั่วโลกก็ไม่มาขายในไทยซะงั้น ผมก็คิดเอาว่าทางดีลเลอร์คงศึกษาตลาดมาดีแล้วคิดว่าเอาเข้ามาแล้วขายไม่ได้จึงไม่ขาย หรือ อยากจะขายแต่ไม่ได้รับอนุมัติจากบริษัทแม่ วันนี้จะมาพูดถึงรถรุ่นหนึ่งที่ทาง Mitsubishi เคลมว่าเป็น Plug-in Hybrid SUV ขับเคลื่อนสี่ล้อ คันแรกของโลก และรถคันนั้นก็คือ Mitsubishi Outlander PHEV นั่นเอง

Mitsubishi Outlander PHEV
เจ้า Mitsubishi Outlander PHEV คันนี้ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 ให้แรงม้าสูงสุด 119 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิด 190 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผนวกกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ด้านหน้าแรงม้าสูงสุด 80 แรงม้าแรงบิด 137 นิวตัน-เมตร ด้านหลัง 80 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 195 นิวตัน-เมตร ตัวเลขสมรรถนะที่ได้ ใช้กำลังไฟฟ้าอย่างเดียว วิ่งได้ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งด้วยระบบ Hybrid (มอเตอร์ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์) ได้ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 11 วินาที ทั้งที่รถมีน้ำหนักรวมถึง 2,310 กิโลกรัม (รวมแบ็ตเตอรี่) น้ำหนักรถเปล่าไม่รวมแบ็ตเตอรี่ 1,810 กิโลกรัม ขับด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวไปได้ไกล 52 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ขับด้วยระบบไฮบริดไปได้ไกล 824 กิโลเมตรเมื่อแบ็ตเตอรี่และน้ำมันเต็มถัง อัตราบริโภคน้ำมันโดยเฉลี่ย(ใช้ไฟฟ้าร่วมกับน้ำมัน) 52.63 กิโลเมตรต่อลิตร!!!! ประหยัดโคตร และบริโภคไฟฟ้า 134 Wh ต่อ กิโลเมตร ซึ่งค่า Wh ก็คือวัตต์ต่อชั่วโมง ถ้าเป็นกระแสไฟบ้าน 1,000 วัตต์ต่อชั่วโมง จะเท่ากับ 1 ยูนิต ก็จะหมายความว่าใช้ไฟฟ้า 1 ยูนิต สามารถวิ่งได้ 7.46 กิโลเมตร (แบ็ตเตอรี่จุไฟได้ประมาณ 6.97 ยูนิต) อัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 44 กรัมต่อกิโลเมตร นับเป็น SUV ขับเคลื่อนสี่ล้อที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานสุดๆ สมรรถนะก็ถือว่าใช้ได้ไม่มีปัญหาในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน แถมยังขับลุยไปในทางทุรกันดารได้อีกต่างหาก

ในฐานะผู้บริโภคด้วยราคาน้ำมันที่ขึ้นเอาๆ ลดทีละไม่กี่สตางค์และลดไม่กี่ครั้ง แต่ขึ้นราคามันทีละหลายๆ ครั้งอย่างนี้ น่าเอารถแบบนี้มาใช้ดูเหมือนกัน แต่มันก็ติดปัญหาอยู่หลายๆ อย่าง หนึ่ง สถานีชาร์จในไทยเราก็ไม่ค่อยจะมี (โคตรล้าหลังบ้านเมืองอื่นเขาไปถึงไหนกันแล้ว) ก็อย่างว่าเอาอะไรกับประเทศที่ได้ใช้ 3G, 4G ทีหลังลาวกับเขมร สอง ด้วยต้นทุนการนำเข้ารถคันนี้ถ้าเข้ามาไทยมันต้องราคาทะลุ 3 ล้านบาทแน่ๆ และด้วยหน้าตาที่คล้าย Pajero Sport ตกแต่งภายในอย่างกับ Mitsubishi Mirage แบบนี้จะมีลูกค้าคนไหนกล้าซื้อ (ทั้งๆที่ดูระบบขับเคลื่อนและการใช้งานแล้วมันดูดีกว่า 2 คันนั้นมากแบบฟ้ากับเหว แต่จะมีคนซักกี่คนที่เข้าใจข้อนี้) สาม บริษัทแม่อาจจะไม่อนุมัติให้ขายในประเทศไทย ซึ่งข้อนี้ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็อาจเป็นไปได้

สรุป ไทยเราอาจจะยังไม่พร้อมกับรถคันนี้ อยากได้ต้องหวังพึ่งผู้นำเข้าอิสระเท่านั้นล่ะมั้ง

ภายในของ Outlander ตกแต่งได้ Look Cheap จริงๆนั่นแหละ
และนี่คือภายในของ Mirage

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น