วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

รีวิวรถมือสอง Toyota Soluna Vios ปี 2002-2007 โฉมแรก

Vios Gen.1 (2005) NCP42 เครื่อง 1NZ-FE
ตลาดรถยนต์นี่ก็แปลกอยู่อย่าง รถบางรุ่นบางยี่ห้อตอนขายใหม่ๆเป็นรถป้ายแดงนี่ดูเหมือนกับว่าไม่ค่อยมีคนสนใจ ด้วยว่าเห็นมันวิ่งอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง แต่พอนานๆ ไปเริ่มเห็นคนขับน้อยลงทุกที กลายเป็นรถมือสอง ก็เริ่มมีคนมาสนใจแถมยังถามซื้อและให้ราคาดีซะด้วย ยิ่งรถที่เลิกผลิตไปแล้วนี่เต็นท์รถบางเจ้าถึงกับหยิบมาเป็นจุดขายว่ารถคันนี้รุ่นนี้มัน Rare นะเฟ้ย อย่าง Toyota Wish ที่ผลิตออกมา Gen เดียวก็เลิกผลิตไปเลยนี่บางคนก็ตามหากันให้วุ่นวาย บางคนถึงกับซื้อมาเก็งกำไรขายได้กำไรหลักหมื่นเกือบแสนเลยก็มี (เคยได้ยินว่ามีคนขายได้กำไร 70,000 บาท) แล้วมันจะเกิดขึ้นกับรถยี่ห้ออื่นอย่าง Lancer EX บ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ในวันนี้รถที่จะมานำเสนอจะว่าหายากไม๊ ก็ไม่ยาก แต่เป็นรถที่ใช้การได้ดี ไม่มีอะไรจุกจิกกวนใจมาก อะไหล่ก็หาง่ายและราคาถูก อย่าง Toyota Soluna Vios เจเนอเรชั่นที่ 1

รถคันนี้เริ่มผลิตในประเทศไทยในปี 2002 ถึงปี 2007 โดยมี codename ย่อๆว่า NCP42 หลักๆที่วางขายในประเทศไทยก็จะใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที มีระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนสองล้อหน้า โดยช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ แม็กเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง ช็อกแอ็บซอร์บเบอร์ ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง ช็อกแอบซอร์บเบอร์ เมื่อใช้วิ่งทางไกลถนนต่างจังหวัดจะกินน้ำมันประมาณ 14 กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าวิ่งในเมืองจะกินประมาณ 10 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ แล้วแต่สภาพการจราจรว่าแออัดขนาดไหน ซึ่งตัวเลขก็ไม่ได้ดูขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเพราะมันก็อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยรถบ้านทั่วไปที่ทำตัวเลขได้ประมาณนี้ แต่ที่ขับในเมืองแล้วเปลืองก็เพราะรถคันนี้เวลาขับต้องใช้รอบสูงอัตราเร่งถึงจะมาแบบพรวดๆ เรียกว่าถ้าลากรอบยาวๆ นี่จะขับสนุกมากบางคนเลยเผลอใจไปกับมัน กดซะเต็มเหนี่ยวมันก็ได้อัตราประหยัดน้ำมันที่ไม่ประหยัดอย่างที่เห็น ซึ่งถ้าขับไปแบบเรื่อยๆ ถึงจะเป็นในเมืองก็ไม่น่าจะทำได้แย่กว่า 12 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ต้องขอบอกเลยว่ารถคันนี้อัตราเร่งขับแล้วยังรู้สึกว่าสนุกกว่ารถซีดาน 1.4-1.6 ลิตร บางรุ่น บางยี่ห้อ ที่วางขายในปี 2014 นี้ซะอีก ถึงจะดูแรงม้าแรงบิดแล้วไม่เท่าไหร่แต่ขับจริงๆแล้วโอเคเลย เพราะ มันรู้สึกถึงความเบาและความคล่องตัว แต่ก็มีข้อเสียคือช่วงล่างและพวงมาลัยรู้สึกร่อนๆ คือเวลาขับด้วยความเร็วสูงประมาณ 140 แล้วรู้สึกมันเบาโหวงเหมือนจะถลาลงข้างทางอย่างซะอย่างนั้น เบรกนี่แล้วแต่อายุการใช้งานคือถ้าใช้ใหม่ๆนี่เบรกจะหนึบจนกัวทิ่ม แต่ถ้าใช้ไปนานๆจะมีอาการเฟด เบรกไม่ค่อยอยู่ ซึ่งใครใช้กันอยู่ก็หมั่นเช็กกันเอาเองตามอายุอะไหล่ที่ระบุไว้ในคู่มือนั่นแหละ (บางคนทำคู่มือหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้) เอาจริงๆ ก็ควรขับไม่เกิน 120 ตามกฎหมายกำหนดนั่นแหละดีที่สุด เรื่องวัสดุตกแต่งภายในก็สมราคาแต่ไอ้มาตรวัดความเร็วแบบตัวเลขนี่เห็นแล้วขัดลูกกะตาจริงๆ แล้วเอาไปวางอยู่ตรงตำแหน่งคอนโซลกลางนี่จะเหลือบมองต้องทำตาเหล่ๆด้วยใช่รึเปล่าเนี่ย

สุดท้ายก็ขอสรุปว่า Vios รุ่นนี้ เป็นรถที่ใช้ง่าย บำรุงรักษาง่าย ไม่ต้องใช้ Specialist หรือช่างเฉพาะทางในการซ่อม แค่ช่างที่พอจะมีความรู้เป็นช่างที่ไว้ใจได้ มีความใส่ใจ ก็สามารถซ่อมรถคันนี้ได้ไม่ยากนัก อะไหล่มีให้เลือกเยอะแยะทั้งของเก่าของใหม่ หรือของแต่งซิ่งก็มีให้เลือกอย่างจุใจ ร้านอะไหล่มีอยู่ทุกหัวระแหง เป็นรถที่มีอัตราเร่งขับสนุกเมื่อเทียบกับพิกัดเครื่องยนต์เดียวกัน ด้านช่วงล่างแม้ไม่ถึงกับดีแต่ขับไม่เกิน 120 ก็ไม่มีปัญหาอะไร ด้านความประหยัดก็อยู่ตามเกณฑ์เฉลี่ยรถบ้านทั่วไป ขอให้คำนิยามสั้นๆ กับรถคันนี้ว่า "เป็นรถที่ใช้ไปแบบไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เหลือเวลาไปทำมาหากินได้สบาย" อ้อเกือบลืมบอกไป ราคา ถ้าเป็นรุ่น 1.5J จะอยู่ที่ 143,000-239,000 บาท ถ้าเป็นรุ่น 1.5E (ABS+Airbag) จะอยู่ที่ 160,000-256,000 บาท ลงวันที่ 18 กันยายน 2557

รู้สึกขัดใจกับมาตรวัดเท่านั้น (รถปี 2005)
คู่มือซ่อมบำรุง Toyota Vios

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น