เขียนพาดพิงถึงมันมาแล้วหลายครั้งไม่แนะนำตัวหน่อยก็คงจะไม่ได้กับรถ supercar สุดหล่ออย่าง Ferrari F458 Italia เจ้ารถคันนี้ทำตลาดมาได้หลายปีแล้วตั้งแต่ปี 2009 ผ่านมาแล้ว 5 ปี ปีนี้ 2014 ก็ยังยากที่จะหารถคันไหนในระดับเซกเมนต์เดียวกันมาโค่นบัลลังก์มันลงได้ ที่ทำได้ดีที่สุดด้วยผลเสมอกันก็คือ Mclaren MP4-12C กับเวลาต่อรอบในสนาม Nurburgring ที่ทำได้ 7 นาที 28 วินาที เท่ากัน เจ้า 458 คันนี้เป็นรถเครื่องยนต์วางกลาง V8 4.5ลิตร ไม่มีระบบช่วยอัดอากาศขับเคลื่อนล้อหลังตัวเลขสมรรถนะมีแรงม้าสูงสุดเท่ากับ 570 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 540 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที และ 80 เปอร์เซ็นต์ของแรงบิดจะมีมาให้ใช้ตั้งแต่ 3,250 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด Getrag ทำให้สามารถพารถที่มีน้ำหนัก 1,485 กิโลกรัม คันนี้วิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่ากับ 7.5 กิโลเมตรต่อลิตร 458 มีความจุถังน้ำมัน 86 ลิตร หมายความว่าเติมน้ำมันเต็มถังแล้วสามารถไปได้ไกล 645 กิโลเมตร อัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 307 กรัมต่อกิโลเมตร ทางด้านสมรรถนะช่วงล่างและการควบคุม ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบนหรือปีกนกคู่ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิ้งค์พร้อมด้วยระบบ E-Diff และ F1-Trac traction control system ในการควบคุมการขับขี่ มีแดมเปอร์ที่ใช้เทคโนโลยีระบบแม่เหล็ก Magnetorheoligical ด้วยสิ่งเหล่านี้แม้คนขับจะเป็นมือสมัครเล่นแต่ถ้าเปิดระบบเหล่านี้ให้ทำงานและขับไม่ห้าวเกินไป ก็ไม่อาจจะทำให้มันหลุดโค้งไปกินหญ้าข้างทางได้ และนักทดสอบชื่อดังหลายคนได้ทดสอบระยะเบรกของรถคันนี้แล้วผลออกมาจากความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถึงจุดหยุดนิ่ง 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้ระยะ 32.5 เมตรหรือ 107 ฟุต ด้วยรูปทรงที่ลู่ลมและสร้างมาอย่างถูกหลักอากาศพลศาสตร์เมื่อรถคันนี้วิ่งด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันจะสร้างแรงกดสู่พื้นได้ 140 กิโลกรัม หรือ 309 ปอนด์ Ferrari F458 Italia คันนี้ สร้างผลงานมาแล้วหลายสนาม เช่น
Topgear Test Track ทำได้ 1 นาที 19.1 วินาที เร็วกว่า Porsche Carrera GT ( 1 นาที 19.8 วินาที ) Lamborghini Murcielago LP 640 ( 1 นาที 19.8 วินาที ) Lamborghini Gallardo LP 570-4 Superleggera ( 1 นาที 20.8 วินาที ) Porsche 911 GT3 RS ( 1 นาที 21 วินาที )
Nurburgring ทำได้ 7 นาที 28 วินาที เท่ากับ Mclaren MP4-12C เร็วกว่า Porsche Carrera GT ( 7 นาที 28.71 วินาที ) Porsche 911 Turbo S ( 7 นาที 32 วินาที ) Pagani Zonda F ( 7 นาที 33 วินาที ) Nissan GTR Spec-V ( 7นาที 34.46 วินาที ) Lexus LFA ( 7 นาที 38 วินาที )
นับได้ว่าหมดข้อกังขาด้านสมรรถนะเพราะผลงานออกมาเป็นรูปธรรม สามารถอ้างอิงได้ว่ามันสามารถทำเวลาในสนามได้ดีกว่ารถสปอร์ตชื่อดังหลายๆรุ่น และชนะ Lexus LFA รุ่นวางตลาด ไม่มี Nurburgring Package ไปได้ถึง 10 วินาที โดย Lexus LFA มีราคาขายในตลาดแพงกว่า Ferrari F458 Italia เป็นแสนดอลล่าร์ ( สหรัฐฯ ) ถ้านำเข้าไทย Lexus LFA จะมีราคาถึง 45 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่า Ferrari F458 Italia ที่มีราคา 25 ล้านบาท เกือบ 2 เท่า
ไฟท้ายทรงโดนัทที่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น