วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Lamborghini Gallardo ถึงแม้จะตกรุ่นไป ก็ยังน่าสนใจอยู่มิใช่น้อย

Lamborghini Gallardo lp 570-4 Superleggera
วันนี้จะมากล่าวถึงรถยนต์รุ่นหนึ่งจากค่ายกระทิงดุแห่งอิตาลี ปัจจุบันรถยนต์รุ่นนี้ได้ยุติสายพานการผลิตไปแล้ว และถูกเข้ามาแทนที่โดย Lamborghini Huracan lp 610-4 ใช่แล้วล่ะครับรถที่ผมจะมาแนะนำวันนี้ก็คือ Lamborghini Gallardo lp 570-4 Superleggera แน่นอนรถรุ่นนี้ทำตลาดมายาวนานนับ 10 ปี แต่ก็ยังคงสมรรถนะพอฟัดพอเหวี่ยงกับซูเปอร์คาร์ค่ายอื่นๆ ที่พึ่งจะออกทำตลาดได้ไม่กี่ปี อาทิเช่น Corvette Stingray รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2014 ที่ Gallardo ยังชนะขาดแต่มีราคาแพงกว่า Stingray มาก และ Porsche 911 Turbo S รุ่นปัจจุบันที่ Gallardo แพ้เพียงแค่สปีดต้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเป็น Gallardo รุ่นมาตรฐานมันคงจะสู้ Ferrari F458 Italia และ Mclaren MP4-12C ที่มีอายุตลาดไล่เลี่ยกันยังไม่ได้ กระทั่ง Audi R8 V10 Plus ก็ดูเหมือนจะแพ้ให้ซะด้วยจากความเห็นของสื่อต่างประเทศ อาทิเช่น Autocar UK, Topgear, Evo Magazine แล้วถ้าเป็นรุ่น Superleggera ที่มีน้ำหนักเบาลงและ แรงม้าเพิ่มขึ้นจาก 550 เป็น 570 แรงม้าล่ะ?

Lamborghini Gallardo lp570-4 Superleggera ใช้เครื่องยนต์ V10 สูบ DOHC 40 วาล์ว ความจุ 5,204 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัด 12.5:1 ให้แรงม้าสูงสุดที่ 570 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 540 นิวตัน-เมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที กำลังทั้งหมดส่งผ่านเกียร์ Sequential 6 สปีดลงสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งตัวรถที่มีน้ำหนัก 1,340 กิโลกรัม พุ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำตัวเลขได้เท่ากับ Ferrari F458 Italia พอดีเป๊ะทั้งอัตราเร่งและความเร็วสูงสุด แต่ความเร็วสูงสุดยังแพ้ให้กับ Aston Martin V12 Vantage S ที่ทำได้ 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสมรรถนะโดยรวมยังแพ้ให้กับ MP4-12C ที่เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 3.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 333 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สมรรถนะสุดยอดแบบนี้ยังถือว่าเป็น Supercar ชั้นแนวหน้าได้อย่างแน่นอน Lamborghini Gallardo lp 570-4 Superleggera คันนี้ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7.4 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยมลพิษ CO2 319 กรัมต่อกิโลเมตร  โดยมีความจุถังน้ำมัน 90 ลิตร เท่ากับว่าเติมน้ำมันเต็มถังแล้วสามารถไปได้ 666 กิโลเมตร (เลขสวยดี) ซึ่งรถสปอร์ตสมรรถนะสูงมันก็ต้องเปลืองน้ำมันอยู่แล้วแต่ก็ถือว่าเปลืองน้ำมันกว่า Bentley Continental GT V8 S ที่คันใหญ่กว่าน้ำหนักมากกว่าเกือบตัน (1,000 กิโลกรัม ไม่ใช่อุดตัน) และยังขับสบายกว่าใช้งานได้สะดวกสบายขับทางไกลได้ดีกว่า แม้อัตราเร่งและความเร็วสูงสุดจะสู้ไม่ได้ก็ตามแต่ก็ไม่ได้แพ้กันมากมายเมื่อเทียบกับสิ่งที่เครื่องยนต์รับภาระอยู่ ถามว่าแล้วไอ้ Gallardo เนี่ยมันเหมาะกับคนแบบไหน ตามความเห็นของผมก็คงเหมาะกับพวกไอ้บ้าห้าร้อยที่บ้าความเร็ว บ้ารถสปอร์ต ชอบเสียงเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่ดังแบบห้าวๆ ซึ่งผมคิดว่า Gallardo ทำเสียงออกมาได้ดุดันกว่า MP4-12C และน่าฟังกว่า Bentley ที่เสียงเครื่องยนต์ในรอบเดินต่ำฟังดูเหมือนเสียงเครื่องยนต์ของรถกระบะเก่าๆพิกล (ไปหาเปิดฟังได้เองใน Youtube) ซึ่งผมคิดว่าในที่สุดแล้วถึงรุ่นนี้จะเลิกผลิตและเลิกทำตลาดแต่มันก็ยังคงขายได้อยู่นั่นแหละ

คุณสามารถมองเห็นเครื่องยนต์ได้จากภายนอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น