วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Ferrari F458 Italia Speciale มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?

ขายแบบลากยาวมาได้ครึ่งทศวรรษตั้งแต่ ปี 2009 แล้วสำหรับ F458 Italia ซึ่งก็ต้องมีการทำตามสูตรคือออกรุ่นพิเศษออกมา และ Ferrari F458 Italia Speciale ก็ได้ถือกำเนิด และมันจะพัฒนาจากตัวมาตรฐานไปมากแค่ไหนมาเริ่มกันที่

รูปลักษณ์ภายนอก
Ferrari F458 Italia Speciale
ท้าย F458 Speciale
รูปร่างมีดีไซน์ไม่ต่างจากเดิม แต่เพิ่มการตกแต่งด้วยลายคาดที่ถึงแม้จะไม่ตั้งใจก็คล้ายแถบสีของธงชาติไทยแบบเป๊ะๆ เปลี่ยนช่องดักลมที่กระจังหน้า เซาะร่องด้านข้างให้ต่างออกไป ท่อไอเสียทรงกลมจากที่มี 3 ท่อเรียงอยู่ตรงกลาง มาคราวนี้จับแยกเป็นท่อคู่ คั่นกลางด้วย Diffuser ใช้ล้อขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 245/35 ZR20 J9.0 ที่ล้อหน้า ส่วนล้อหลังจับคู่กับยางขนาด 305/30 ZR20 J11.0 มาพร้อมกับระบบเบรคคาร์บอนเซรามิก ที่มีขนาด ด้านหน้า 398*223*36 มิลลิเมตร และด้านหลัง 360*233*32 มิลลิเมตร

มิติตัวรถและน้ำหนัก
Ferrari F458 Italia Speciale มีขนาด ยาว*กว้าง*สูง เท่ากับ 4,571*1951*1203 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 2,650 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,395 กิโลกรัม กระจายน้ำหนักไปด้านหน้า 42% ด้านหลัง 58% ความจุถังน้ำมัน 86 ลิตร

ภายใน
ตกแต่งที่นั่งแบบรถแข่งฟอร์มูลาวัน มีเบาะหนัง Alcantara ชั้นดีก็จริงแต่มันแคบและนั่งไม่สบายเอาเสียเลย ทัศนะวิสัยในห้องโดยสารก็แย่ กระจกมองข้างเล็กเมื่อมองจากภายในจะมองไม่ค่อยเห็นรถที่มากระหนาบข้าง หรือตามมาด้านหลัง แต่จะส่งผลดีในการมองไลน์การเข้าโค้งเวลาขับในสนามแข่ง เนื่องจากจุดประสงค์ของรถคันนี้ก็ทำมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว สังเกตจากเบาะนั่งที่จุดศูนย์ถ่วงต่ำเป็นพิเศษจนบางทีนี่นึกว่าจะนอนราบขนานไปกับพื้นถนนซะอีก บอกได้เลยว่านั่งไปนานๆ มีตะคริวกินแน่ๆ เทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ความสะดวกสบายและการใช้งานในชีวิตประจำวันรถคันนี้ทำได้แย่ที่สุด เปรียบเทียบกับ McLaren 650s, McLaren MP4-12C, Lamborghini Huracan, Porsche 911 Turbo S และ Audi R8 แล้ว รถเหล่านั้นนั่งสบายและใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ดีกว่าเยอะ

สมรรถนะเครื่องยนต์และอัตราเร่ง
ยังใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 สูบ 4.5 ลิตร ไร้ระบบช่วยอัดอากาศเหมือนเดิม แต่อัพเกรดสมรรถนะเพิ่มเป็น 605 แรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิด 540 นิวตัน/เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่าเดิม ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้เร็วขึ้นอีก 0.4 วินาที โดยทำได้ 3.0 วินาที 0-200 ได้ใน 9.1 วินาที ยังช้ากว่า McLaren 650s ที่ทำได้ 8.4 วินาที Drag ทางตรงในระยะ 1,000 เมตร ใช้เวลา 19.4 วินาที ก็ยังช้ากว่า 650s ที่ทำได้ 18.9 วินาที กลายเป็น Ferrari F458 Italia Speciale ราคา 29 ล้านบาทไทย ช้ากว่ารถราคา 26 ล้านบาท อย่าง McLaren 650s ซะได้ ผลงานในสนาม Fiorano ของตัวเองทำผลงานได้ เวลาต่อรอบที่ 1 นาที 23.5 วินาที เร็วกว่า 458 รุ่นมาตรฐานอยู่ 1.5 วินาที ด้านความคุ้มค่า อัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ 11.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือ 8.47 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยไอเสีย 275 กรัมต่อกิโลเมตร ประหยัดและสะอาดกว่ารุ่นมาตรฐานเยอะ มันเป็นรถที่เร็วและพร้อมที่จะวิ่งอย่างพุ่งปรี๊ด ดังนั้นคนที่ได้ขับมันคงทำอัตราประหยัดน้ำมันได้ไม่ดีเท่าที่สเป็คระบุมาหรอก เพราะมันเหมือนกับเครื่องยนต์ V8 4.5 ลิตร มันจะบอกกับคุณว่า 'ถ้าเอ็งไม่อยากขับเร็วเอ็งอย่าขับข้าเลยจะดีกว่า' และแม้คุณจะไม่ต้องการความเร็วความแรงรถคันนี้ก็จะยัดเยียดสิ่งเหล่านี้ให้คุณ โดยเพียงกดคันเร่งเบาๆ เท่านั้นมันก็พร้อมที่จะพุ่งเป็นจรวด แต่ความเร็วของมันก็สามารถบังคับควบคุมได้ง่ายโดยที่คุณไม่ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญไม่ต้องมีพรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษและไม่ต้องฝึกฝนอะไรเลย เสียงเครื่องยนต์และท่อไอเสียดังเร้าใจยิ่งกว่าที่เป็นใน 458 รุ่นมาตรฐาน

ช่วงล่าง ระบบรองรับ
ช่วงล่างระบบแม่เหล็ก Magnetorheological ระบบ E-Diff และ F1 Traction Control ถูกพัฒนาให้มีความแม่นยำและละเอียดมากกว่าเดิม ทำให้การบังคับควบคุมเฉียบคมกว่า เข้าโค้งได้เร็วและแม่นยำกว่ารุ่นมาตรฐาน การทรงตัวมีความมั่นคงขึ้นโดยไม่มีอาการท้ายสั่นซึ่งเกิดขึ้นกับ 458 รุ่นมาตรฐาน ช่วงล่างและระบบรองรับเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้วิ่งในสนามแข่งโดยเฉพาะ การใช้ความเร็วในการเข้าโค้งจึงไม่มีปัญหา แต่ถ้าไปขับตามถนนที่มีลูกระนาดปัญหาจะตามมาแน่นอน เพราะมันซับแรงสั่นสะเทือนได้แย่ เทียบ Lamborghini Huracan ไม่ได้เลย ระยะเบรคจาก 100-0 กม./ชม. ทำได้ 31 เมตร ก็ทำได้แย่กว่า McLaren 650s ที่ทำได้ 30.5 เมตร ดูผิวเผินอาจเป็นระยะเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าแปลงค่าเป็นเซนติเมตรแล้ว ระยะเบรคไกลกว่าตั้ง 50 เซนติเมตรนี่มันนับว่ามากเลยล่ะ แต่การบังคับควบคุมถือว่าทำได้ง่ายและคล่องตัวแม้จะเป็นยามที่ขับในเมืองที่มีการจราจรติดขัด พวงมาลัยตอบสนองได้ไวดี แต่เมื่อขับในความเร็วสูงก็จะมีน้ำหนักพวงมาลัยที่ลงตัวสัมพันธ์กับความเร็ว การจะขับรถคันนี้ด้วยเทคนิคชั้นสูงอย่างการดริฟท์นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยที่คนขับไม่ต้องถึงขนาดเก่งระดับเซียนก็สามารถทำได้ โดยแค่เป็นคนที่ขับรถเป็นก็พอจะใช้ท่าดริฟท์ขั้นพื้นฐานได้ เพียงแค่เปิด VIDEO ใน Youtube ดู แล้วทำตามก็ทำได้ พอจะบอกได้ว่ารถคันนี้เปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นเซียนได้จริงๆ

สรุป
เห็นว่าเป็นซูเปอร์คาร์สมรรถนะดีก็อาจจะทำให้บางคนเกิดกิเลส ทั้งรีวิวจากนิตยสารชื่อดังหลายสำนักต่างพากันแซ่ซ้องสรรเสริญ จนถึงขั้นมีคะแนนเต็ม 10 ให้ 10 คะแนนเต็ม หรือเต็ม 5 ดาว ก็ได้ 5 ดาวเต็มๆ แต่ลองมองในมุมกลับดูบ้าง Ferrari F458 Italia Speciale ที่ตั้งราคาไว้ 29 ล้านบาท นับว่าเป็นราคาที่แพงเกินไปไม่คุ้มกับสิ่งที่จะได้ คือได้แค่สมรรถนะกับความเร็วเท่านั้น ซึ่งเอาจริงๆ แล้วมันไม่ได้วิเศษวิโสอะไรที่ขนาดจะได้คะแนนเต็มไปทุกเรื่อง นั่นเป็นเพราะว่าคนในวงการยานยนต์นั้นยกย่องหรืออวย Ferrari กันมากจนเกินความเป็นจริง มันมากซะจนบางทีรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วก ทั้งๆ ที่มีรถในระดับเดียวกันที่ใช้งานดีกว่า และบางคันยังทำสมรรถนะได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ค่อยจะมีใครพูดถึงรถเหล่านั้น แล้ว 458 Speciale มันมีดีก็แค่ขับสนุก ให้อารมณ์เร้าใจแบบเฟคๆ เท่านั้น การใช้งานจริงไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย สมรรถนะอัตราเร่ง ความเร็ว และเบรค ก็สู้ McLaren 650s ไม่ได้ การใช้งานอย่างสมบุกสมบันก็สู้ Lamborghini Huracan ไม่ได้ ประหยัดน้ำมันก็สู้ Porsche 911 Turbo S ไม่ได้ จะว่าเป็นรถที่ขับง่าย Audi R8 ก็ยังจะขับง่ายกว่า และรถที่กล่าวมาเหล่านี้ล้วนมีราคาถูกกว่า Ferrari F458 Speciale คันนี้อยู่มาก แต่หลายคนก็ทำเป็นตาบอดมองไม่เห็น หลับหูหลับตาอวย Ferrari มันอยู่นั้นแหละ เรทติ้งจาก AutoEvolution น่าจะสะท้อนความเป็นจริงของรถคันนี้ได้ดีที่สุดแล้ว

คะแนนจาก autoevolution http://www.autoevolution.com
จริงๆ แล้วสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนอวยมันอยู่ตอนนี้ ก็เป็นเพราะประวัติศาสตร์อันยาวนาน และชื่อเสียงที่โด่งดังเพียงแค่นั้น สรุปโดยรวมแล้วได้คะแนนแค่ 7 จาก 10 คะแนนเต็ม และคุณค่าเมื่อเปรียบเทียบกับเม็ดเงินที่จ่ายไปได้แค่ 6 จากคะแนนเต็ม 10 เท่านั้น รวมคะแนนทั้งหมดได้เพียง 76 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน แถมจากผู้ใช้เองก็ยังได้ 85 เต็ม 100 คะแนน ถ้าหากมันดีไปทุกอย่างทำไมมันไม่ได้เต็ม 100 คะแนน หรืออย่างน้อยได้ 90 คะแนนขึ้นไปก็ยังดี สรุปแล้วสิ่งที่คุณต้องเสียเงินซื้อไปก็คือ ชื่อเสียงจอมปลอม ความเท่ห์ที่หาสาระอะไรไม่ได้ ขับแล้วชะนีกรี๊ดเท่านั้น ไม่ใช่เพราะว่าอิจฉาเพราะไม่มีปัญญาซื้อขับแต่ว่ากันตามตรงแล้ว คนที่ขับ McLaren 650s หรือ MP4-12C, Lamborghini Huracan, Porsche 911 Turbo S และ Audi R8 V10 Plus ยังจะน่าอิจฉามากกว่าซะอีก ที่กล่าวมาเช่นนี้ไม่ใช่ว่า Ferrari F458 Italia Speciale คันนี้ไม่ดี มันเป็นรถที่ทำได้ตามเจตนารมณ์ของผู้สร้างมันมาทุกประการ เป็นดั่งพยัคฆ์ติดปีกในสนามแข่ง แต่บางทีสื่อก็อวยกันจนเกินไป จนรถที่เร็วคันหนึ่งมันจะกลายร่างเป็นยานอพอลโล่อยู่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น