วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

BMW i8: Roadcar 3 สูบ 1.5 ลิตร ที่แรงที่สุดในโลก?


BMW i8
BMW i8 รถสปอร์ตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของค่ายใบพัดฟ้าขาวได้ออกมาอวดโฉมให้ชาวโลกได้เห็นมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของไทยเราก็นำเข้ามาด้วย โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 11,899,000 บาท BMW i8 นับเป็นรถ Plug-in Hybrid ที่มีเทคโนโลยีเครื่องยนต์กลไกล้ำยุคมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ในพิกัดเดียวกัน แต่ในทรรศนะของนักวิเคราะห์ของสื่อต่างประเทศที่ทดสอบรถสปอร์ตมาแล้วมากมายกลับยังไม่ค่อยพอใจกับรถรุ่นนี้นัก โดยสรุปว่าสำหรับการเป็นรถสปอร์ต BMW i8 นั้นสมรรถนะแย่เกินไป และในวัตถุประสงค์ของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมันก็ยังทำได้ไม่ดีพอ แต่ก็ยังมีนักวิจารณ์บางท่านที่เห็นว่ารถสปอร์ตคันนี้เป็นอะไรที่แตกต่างออกไปซึ่งบุคลิกของมันไม่ใช่รถที่ใช้ซิ่งแข่งกัน แต่เป็นรถเพื่อขับอวดสายตาผู้คนในเมืองมากกว่า และในด้านนี้มันประสบความสำเร็จมากเสียด้วย โดยไปที่ไหนก็มีแต่คนจับจ้อง Spyshot มาให้ได้เห็นกัน ซึ่งบางทีมันอาจจะดึงดูดสายตามากกว่าซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูงบางคันด้วยซ้ำ แต่ต้องมาดูตัวเลขสมรรถนะว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

BMW i8 ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเบนซินเทอร์โบ ขับเคลื่อนพร้อมกับมอร์เตอร์ไฟฟ้า ความจุกระบอกสูบ 1.5 ลิตร เฉพาะกำลังเครื่องยนต์มี 231 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 3,700 รอบต่อนาที สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลัง 131 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตัน-เมตร รวมกำลังทั้งระบบได้ 362 แรงม้า แรงบิด 570 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ลงสู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยล้อคู่หน้าขับเคลื่อนด้วยมอร์เตอร์ไฟฟ้า รถคันนี้ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.4 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวรถมีน้ำหนัก 1,559 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร ความจุห้องสัมภาระ 154 ลิตร โดยโรงงานระบุสเป็คอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงไว้ที่ 47.6 กิโลเมตรต่อลิตร อัตรา CO2 49 กรัมต่อกิโลเมตร แต่พอทดสอบโดยนิตยสารรถยนต์กลับพบว่าอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 153 กรัมต่อกิโลเมตร โดยใช้ระบบขับขี่แบบประหยัดแล้วก็ยังทำได้ดีที่สุดแค่ 22.22 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งต่างจากค่าที่ระบุโดยโรงงานอย่างลิบลับ ถึงแม้ตัวเลขนี้จะประหยัดแล้วก็ตาม (พอๆกับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ระบุในรถ Mitsubishi Attrage 22 กิโลเมตรต่อลิตร) แม้มันจะประหยัดพอๆ กับอีโค่คาร์แต่กับรถที่ต้องใช้เงินเกือบ 12 ล้านบาทในการเป็นเจ้าของมันก็ควรจะทำให้ได้ตามสเป็คที่ระบุจากโรงงาน แต่จะบอกว่าสมรรถนะอัตราเร่ง ความเร็วสูงสุด มันดีเกินพิกัดเครื่องยนต์อันนี้มันก็ถูก และจากการทดสอบอัตราเร่งจาก 0-100 มันดีกว่าสเป็คที่ระบุจากโรงงาน 4.4 วินาที เร็วขึ้นที่ 4.2 วินาทีอีกด้วย โดยการใช้ Launch Control และอัตราเร่งแซงในความเร็วปลายทำได้โหดดีเหมือนกันที่เร่งความเร็วจาก 180-250 ได้ใน 17.3 วินาที โดยสมรรถนะดีดี เหล่านี้จะทำได้เมื่อแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็มและมีกำลังเพียงพอ หากแบตอ่อนสมรรถนะก็อ่อนตาม และการส่งกำลังไม่ต่อเนื่องนี่เองที่เหล่านักวิจารณ์ต่างพากันตั้งแง่กับรถคันนี้ แต่ผมก็ยังไม่เห็นด้วยซะทั้งหมด เพราะ ในโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่ต้องขับแบบตะบี้ตะบันให้เต็มสมรรถนะไปตลอดทางและรถราคาแพงขนาดนี้ควรขับแบบทะนุถนอมมากกว่า เพราะถ้าอะไหล่ชิ้นสำคัญเกิดพังขึ้นมาค่าซ่อมนั้นแพงบรรลัยแน่ ซึ่งมามองกันตรงนี้ผมชักจะเห็นด้วยกับท่านที่บอกว่า BMW i8 เหมาะที่จะใช้ขับชิลๆ อวดโฉมที่งดงามล้ำยุคของมันในเมืองมากกว่าซะแล้วสิ

BMW i8 ในงานเจนีวา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น