วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

Toyota Land Cruiser Prado ลูกพี่ใหญ่ของ Fortuner


Toyota Land Cruiser Prado

สถานะระหว่าง Prado กับ Toyota Fortuner นั้นแทบไม่ต่างจากการเป็นพี่น้องกันเลยก็ว่าได้ เพราะหลายๆ คนที่ใช้ Fortuner ก็มักจะใช้อะไหล่แต่งของ Prado เพื่อเสริมความเท่ให้กับรถของตัวเอง และอะไหล่บางชิ้นที่ส่งผลต่อการใช้งานก็ยังเข้ากันได้แบบพอดีเป๊ะ เรียกว่าหากอยากอัพเกรด Fortuner ของตัวเองให้มีระดับไปอีกก็ใช้อะไหล่ Prado มันเลย แล้ว Toyota Land Cruiser Prado ที่นำเข้าไทยมาราคา 2-3 ล้านบาทเนี่ย จริงๆแล้วมันสมรรถนะดีอย่างที่คนเข้าใจกันรึเปล่า ซึ่งผมก็เข้าใจว่ามันดีนั่นแหละเพราะคนอเมริกันบางคนถึงกับยกมันเทียบกับ Jeep Grand Cherokee เลยทีเดียว Toyota Land Cruiser Prado รุ่นปัจจุบันเป็น Generation ที่ 4 รหัส J150 ที่แปะตราเป็น Lexus GX 460 ในตลาดอเมริกา (จริงๆ มันเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ Pajero Shogun ด้วยเหมือนกัน) ครั้งนี้ขอแนะนำ Prado เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีแรงม้าสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 410 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 รอบต่อนาที น้ำหนักรถเปล่า 2,210 กิโลกรัม อัตราบริโภคน้ำมันโดยเฉลี่ย 11.36 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าเปลืองน้ำมันใช้ได้ แต่ก็อยู่ในช่วงมาตรฐานของ SUV ทั่วไปซึ่ง Fortuner เองก็มีตัวเลขแบบนี้ให้เห็นอยู่เหมือนกัน แต่รถระดับนี้ย่อมมีอะไรที่เหนือกว่าแค่เรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์เท่านั้น ด้วยถุงลมนิรภัยที่ให้มาถึง 7 ใบ กับโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง มันได้รับการทดสอบและผ่านมาตรฐาน Euro-5, ANCAP 5 และมาตรฐานอื่นๆอีกมากมาย ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยนั้นหายห่วงสำหรับรถคันนี้ สำหรับเรื่องความถึกทนนั้นเป็นจุดเด่นของ Toyota อยู่แล้ว ซึ่งรถคันนี้ได้ผ่านการทดสอบการเดินทางผ่านพื้นที่ทุรกันดารของ Australia เป็นระยะทางกว่า 450,000 กิโลเมตร ซึ่งหัวหน้าวิศวกรของ Toyota Australia ซาดาโยชิ โคยาริ กล่าวว่า "ถ้ามันสามารถเอาตัวรอดใน Australia ได้ มันก็สามารถเอาตัวรอดได้ทุกที่ในโลก" คำพูดนี้แสดงถึงความมันใจอย่างเต็มเปี่ยมว่ารถคันนี้สามารถลุยไปได้ทุกที่ในโลก Prado คันนี้สามารถทำให้คนขับสามารถลุยได้อย่างผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็นการปีนเขาลงเนิน สมรรถนะของมันจะไม่ทำให้รู้สึกเกร็งหรือกังวลเวลาขึ้นหรือลงทางลาดชันเลย เพราะไม่จำเป็นต้องเค้นพละกำลังหนักๆ จากแรงบิดสูงสุดที่มาเพียงรอบต่ำแค่ 1,600 รอบต่อนาที แต่ไอ้รถคันนี้ยังมีข้อเสียตรงที่การตอบสนองของพวงมาลัยที่ไม่ค่อยจะเที่ยงตรงซักเท่าไหร่ และยังขาดฟีดแบ็คจากพวงมาลัยทำให้ยากในการที่จะประเมิณสภาพการเกาะถนนหรือกริ๊พของยางได้ มองดูแล้วถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับ SUV ชั้นนำของโลกได้หลายๆ รุ่น แต่จนแล้วจนรอดไอ้นักทดสอบที่ทดสอบรถคันนี้ที่ผมแปลและสรุปรีวิวมาให้คุณได้อ่านก็นั่งสแคลชไข่แล้วสรุปออกมาว่า Toyota Land Cruiser Prado ยังแพ้ให้กับ Land Rover Discovery 4 อยู่ดี (ก็แหงล่ะ Discovery 4 ราคาแพงกว่ากันตั้งเยอะนี่นา)


ดูเครื่องยนต์ซะให้เต็มตา
Land Cruiser 1998-2007 Service Manual

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น